ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม
พูดคุยกับเราได้ที่ Line Official Account
live chat
TH
ธุรกิจของเรา
วาณิชธนกิจ
ข่าวประชาสัมพันธ์
FynnCorp (AA&P เดิม) ปักหมุด ปี 73 ขึ้นแท่น ‘บริษัทระดับโลก’
date icon15 Apr 2023 human icon3 MIN READ

FynnCorp วางเป้าเป็นมากกว่า IB เดินหน้ากลุยทธ์ 3 ปี รายได้ทะลุ 150 ล้านบาท มองโอกาสดึงเม็ดเงินทุนต่างชาติ หนุนเศรษฐกิจไทยโต หลังติดกับดัก 3-4% ร่วม 9 ปี ปักหมุดปี 2573 ขึ้นแท่น “บริษัทระดับโลก”

บริษัท ฟินน์คอร์ป แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด หรือ FynnCorp (AA&P เดิม) ที่ปรึกษาทางการเงินหรือวาณิชธนกิจ (Investment Banking: IB) ที่พยายามแตกไลน์ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisory)หรือ เทคโนโลยีนักลงทุนสัมพันธ์ (IR Tech) เทคตลาดทุน (Capital Market Tech)รวมถึงที่ปรึกษาทางลงทุน (Investment Advisory)และการลงทุน (Investment)โดยวางกลยุทธ์แต่ละสเต็ปแต่ละ Chapter เพื่อเป้าหมาย “บริษัทระดับโลก: Global Company” ในปี 2573

นายพรพุทธ ริจิรวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม FynnCorp เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังเข้ามารับภารกิจสานต่อ FynnCorp ได้ราว 2 ปีครึ่ง จะเน้นทำธุรกิจในลักษณะ B2B ทั้งทำหน้าที่ให้คำปรึกษาธุรกิจมหาชนในการระดมเงินทุน บริหารการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) การปรับโครงสร้างเงินทุน การปรับโครงสร้างหนี้และธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ

ขณะเดียวกันพยายามแตกไลน์ไปในธุรกิจที่หลากหลาย โดยไม่ได้เน้นเฉพาะธุรกิจ IB เท่านั้น เพราะปัจจุบัน FynnCorp กำลังจะขยับทำเรื่อง IR หรือ Dada Tech โดยปีหน้า FynnCorp จะก้าวสู่ธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุนหรือ “บลป.” ที่สามารถดูแลทั้งบริษัทจดทะเบียนและรายย่อยได้ ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น

“แต่ละ Chapter ที่เราก้าวไปเล่นจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและอุตสาหกรรม เช่นวันนี้เรากำลังจะจบ Chapter1 หมายความว่า FynnCorp มีหลากธุรกิจในกลุ่ม และต่อไปจะรีแบรนด์ให้อยู่ภายใต้ชื่อเดียวกัน ถัดไปจะเป็น Chapter2 ที่จะสร้างให้กลุ่มธุรกิจเดินไปด้วยกันและจะจบ Chapter2 ในปี 2568” นายพรพุทธกล่าว

ทั้งนี้ในแง่การเติบโตต่อปีอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งหากนับรายได้ ขณะนี้ FynnCorp อยู่ใน 5 อันดับแรกของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน โดยแต่ละปีรายได้จะไต่ระดับเรื่อยๆ จากปี 2563 ราว 8 ล้านบาท ปีถัดมาเป็น 30 ล้านบาท สิ้นปีที่แล้วมีรายได้ 46 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้ปี 2566 ไว้ที่ 90 ล้านบาท โดยภายใต้แผนธุรกิจ 3ปี (2566-2568) จะมีรายได้เป็น 150 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ระยะ 3ปี (2566-2568) จะขยายการเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งธุรกิจ อุตสาหกรรมตลาดทุน และเศรษฐกิจไทย เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้านคือ

  • สร้างทางเลือกการระดมทุนรูปแบบใหม่ให้กับบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กถึงกลางเพื่อสร้างการเติบโตและสามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่ได้
  • เพิ่มโอกาสให้เข้าถึงการลงทุนสำหรับทุกคน โดยการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่คำนึงถึงการเพิ่มโอกาสและความรู้ในด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ไม่จำกัดแค่เป็นนักลงทุนรายใหญ่
  • ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการเงินรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป
  • มุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการเงินที่สร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น

สำหรับปี 2566 FynnCorp ยังคงเดินหน้าวางกลยุทธ์เพื่อสร้างระบบนิเวศการระดมทุน และการลงทุน (ecosystem) ให้สามารถเข้าถึงได้กับทุกคนในรูปแบบการให้บริการที่แตกต่าง เพื่อสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีให้กับนักลงทุนได้อย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์การลงทุนยุคดิจิทัลและเข้าถึงนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าครบจบในที่เดียว

นายพรพุทธกล่าวต่อว่า สิ่งที่จะก้าวเดินในปีหน้าบลป.จะทำเรื่องการเทรดตราสารหนี้และตราสารทุน ภายใต้แนวคิดของ FynnCorp ที่ต้องการเป็นตัวกลางสามารถกระตุ้นหรือทำให้ตลาดตราสารหนี้ (บอนด์) ของไทยมีขนาดใหญ่ในระดับหนึ่ง เพื่อทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนเพิ่มมาขึ้น เพราะตลาดบอนด์ของไทยยังอยู่ในขั้นพัฒนา มีภาคเอกชนอยู่แค่ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะกลับข้างกับตลาดบอนด์ในต่างประเทศ แต่เมืองไทยยังมีพลังเงินอีกมหาศาลจากฐานเงินฝากและพร้อมจะย้ายมาอยู่ในตลาดบอนด์ โดยการดึงเงินฝากภาคประชาชนมาอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียน

“เราต้องการเงินตรงนี้ที่ประชาชนได้รับผลตอบแทนต่ำมาให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) นำไปลงทุน ขณะเดียวกันผู้ฝากเงินจะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น และสะท้อนกลับไปสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งในประวัติศาสตร์ของไทยโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้หรือถึงขั้นต้องฟื้นฟูกิจการหรือล้มละลายอยู่ที่ 0.2% ถ้าสมมติเราดึงเงินลงทุน 100 ล้านบาทมากระจายในบจ.มีโอกาสจะเสียหายราวม 2 แสนบาท ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 8%ต่อปี และการกระจายสินทรัพย์ลงทุน ทำให้ความเสี่ยงของพอร์ตลดลง”

สำหรับแนวทางดำเนินงานปีนี้ บลป.มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยวางแผนจะระดมทุนซีรี่ย์ A และซีรี่ย์ B (ห่างกัน 8 เดือน) โดยจะเริ่มซีรีย์ A ประมาณกลางปี 2566 วงเงิน 150-160 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการลงทุน ขยายทีมและเพื่อใช้ในการพัฒนาโปรดักต์ ซึ่งทั้งซีรี่ย์ A และ B เป็นการระดมทุนในประเทศ แต่อาจจะเป็นสถาบันที่มาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะบอกคือ FynnCorp ทำอะไรที่แตกต่างจากชาวบ้าน ไม่ว่านโยบายการลงทุน การจ่ายผลตอบแทนโดยพยายามจะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในอนาคต โดยปีหน้าเมื่อเข้าสู่ Chapter 2 แล้ว บริษัทจะเป็นทางออกของตลาด (Market Solution) จากที่เป็น IB เล็กๆ ต่อไปจะสร้างนักวิเคราะห์ขึ้นมา เพื่อสร้างเป็นชุมชนแบ่งปันความรู้บริษัทจดทะเบียน เพื่อให้บริการเป็น End to End อย่างครบวงจร

“ช่วง 2 ปีครึ่งที่ผมเข้ามา สามารถขยับขึ้นมาเป็น IB ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งและกำลังจะจบ Chapter1 หมายความว่า วันนี้เรามีหลายธุรกิจในกลุ่ม ซึ่งต้องการจะรีแบรนด์ให้ธุรกิจในกลุ่มถูกเรียกภายใต้ชื่อเดียวกัน โดยวางตำแหน่งเป็น Global Company ภายในปี 2573 แต่ไม่ใช่ขยายธุรกิจหรือสาขาไปในต่างประเทศ แต่มองโอกาสที่จะดึงเงินทุนและนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตหลังจากเราติดกับดัก 3-4% มาเป็นเวลาร่วม 9 ปี ซึ่งเราต้องการจะเป็น Capital Market Solution กับบริษัทจดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศรวมถึงการเป็นบริษัทชั้นนำที่นักลงทุนและเด็กจบใหม่อยากเข้ามาทำงานด้วย” นายพรพุทธกล่าว

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,879 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2566


FynnCorp Media
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด