ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม

พูดคุยกับเราได้ที่ Line Official Account

3

หุ้นกู้

เศรษฐกิจในประเทศ

Figure 2 : Maturity Vs. New Registered Bonds (THB Billion)

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

Figure 3 : Outstanding Value of Long-term Bond with Maturity by sector

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

สรุปตราสารหนี้เสนอขายในเดือน พฤษภาคม 2568

  • หุ้นกู้กลุ่ม Investment grade จำนวน 15 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ PREB NOBLE QH WHAUP BAFS FPT MINT TLT TRUE NTL TPIPL JMT FTREIT SCB MTC มูลค่าประมาณ 7.96 หมื่นล้านบาท
  • หุ้นกู้กลุ่ม Non Investment grade จำนวน 8 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ DHOUSE KUN PD MQDC SASST ANAN PTG SGC มูลค่าประมาณ 4.5 พันล้านบาท
  • (Figure 3) จากตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวที่ขึ้นทะเบียนในเดือน เมษายน 2568 เราพบว่ามีบริษัทที่มีสัดส่วนมากถึง 7 บริษัทจากทั้งหมด 23 บริษัทผู้ออกที่ไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย โดยปัจจัยหลักยังมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของทางฝั่งสหรัฐ โดยในเดือนนี้มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยยะคือ กลุ่มท่องเที่ยวได้แก่บริษัท MINT ที่มีการออกหุ้นกู้มากถึง 8 พันล้านบาท

Figure 4 : Company Rating Changes during 2019-5M2025

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

ในเดือน พฤษภาคม 2568 มีตราสารหนี้ถูกปรับลดอันดับเครดิตองค์กร 3 รายได้แก่ SQ, SCG และ BEM มีตราสารหนี้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร 3 รายได้แก่ SAMART SAMTEL NTL ทำให้ภาพรวมทั้งปี 2568 มีบริษัทถูกปรับลดอันดับเครดิตองค์กร 15 บริษัท มีบริษัทถูกปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร 8 บริษัท และมีหุ้นกู้ผิดนัดชำระรวมแล้ว 3 รายตั้งแต่ต้นปี

การปรับอันดับเครดิต หุ้นกู้ (Issue Rating)

ตราสารหนี้ปรับลดอันดับเครดิตองค์กร 3 ราย

  • SQ ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
    • จาก “BB” เป็น “BBB-” พร้อมทั้งประกาศแนวโน้มอันดับเครดิตพินิจ “Negative” หรือ “ลบ”
    • โดยมีสาเหตุมาจากการที่บริษัทขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้มูลค่า 550 ล้านบาท (SQ256A) ออกไปไม่เกิน 3 ปีและขอยกเว้นภาระผูกพันบางประการตามข้อตกลงและเงื่อนไขของหุ้นกู้
    • การปรับลด สะท้อนถึง สถานะ สภาพคล่องที่ตึงตัว และความเสี่ยงในการ รีไฟแนนซ์ เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากภาวะตลาดตราสารหนี้ที่ยังคงท้าทาย ประกอบกับความลังเลของธนาคารบางแห่งในการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน ท่ามกลางความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
    • นอกจากนี้หนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน และสินทรัพย์ส่วนใหญ่บริษัทยังได้ถูกนำไปจำนำไว้กับ ธนาคารแล้ว ทำให้บริษัทมีความสามารถจำกัดในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมโดยใช้ทรัพย์สินค้ำประกัน
  • SCG ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน)
    • จาก “A” เป็น “A-” โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”
    • ปรับอันดับเครดิตเฉพาะองค์กร (Stand-alone Credit Profile) ของบริษัทลงจาก “a-“ เป็นระดับ “bbb+
    • สาเหตุมาจากอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ซึ่งเคยกำหนด ไว้ที่ 6 เท่า โดยระดับหนี้สินที่สูงขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากแนวโน้มที่บริษัทจะลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการ
  • BEM ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
    • จาก “A-” เป็น “BBB+” โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต“Stable” หรือ “คงที่”
    • สาเหตุมาจาก หนี้สินทางการเงินของบริษัทจะอยู่ในระดับที่ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้จากการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเติมรวมถึงการปรับปรุงระบบของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และการลงทุนที่มากกว่าคาดการณ์ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
    • รวมไปถึง สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทจากการมีสินทรัพย์สัมปทานที่มี คุณภาพสูง กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอจากธุรกิจทางด่วน และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจรถไฟฟ้า

ตราสารหนี้ถูกปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร 3 ราย

  • SAMART ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
    • จาก “BBB” เป็น “BBB+” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ“คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก”
    • การเพิ่มอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่ดี ขึ้นของบริษัทซึ่งได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและโครงสร้างเงินทุนที่มีหนี้สินลดลง
    • ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาสถานะทางการเงินที่ดีเอาไว้ได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าโดยมีปัจจัย สนับสนุนจากผลกำไรที่สม่ำเสมอรวมถึงการบริหารการเงินและการลงทุนที่รอบคอบ
    • รวมถึงผลงานในการดำเนินโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับและฐานรายได้ประจำที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่มีความรุนแรงในอุตสาหกรรม ICT รวมถึงความผันผวนและความไม่แน่นอนของรายได้ซึ่งเป็นลักษณะของงานโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ที่ขึ้นอยู่กับงบประมาณของรัฐบาล
  • SAMTEL ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน)
    • จาก “BBB” เป็น “BBB+” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ“คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก”
    • การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตกลุ่ม (Group Credit Profile) ของ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAMART) เป็นระดับ “BBB+” จากเดิมที่ระดับ “BBB” ซึ่งสะท้อนถึงฐานกำไรของกลุ่ม SAMART ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและโครงสร้างเงินทุนที่ปรับตัวดีขึ้นจากการมีหนี้สินที่ลดลง
  • NTL ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
    • จาก “A” เป็น “A+” โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”“คงที่”
    • การเพิ่มอันดับเครดิตนี้เป็นผลมาจากการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของกลุ่มธุรกิจ (Group Credit Profile) ของ TIDLOR Group ที่ระดับ ‘a+’ โดยอันดับเครดิตของบริษัทเทียบเท่ากับความเสี่ยงด้านเครดิตของกลุ่มธุรกิจ เนื่องจากบริษัทถือเป็น “บริษัทหลัก”ภายในกลุ่มธุรกิจ TIDLOR ตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจของทริสเรทติ้ง

คัดตราสารหนีเสนอขายใหม่

  • สำหรับตัวอย่าง ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่จะเสนอขายในช่วงเดือน มิถุนายน 2568 ได้แก่ TMN SUPER UNIQ INET CKP BGRIM NAKON TISCO SCGP WEH CWTTH ISTORE

สามารถดูข้อมูล อัตตราดอกเบี้ย อายุของตราสารหนี้ และเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ ThaiBMA

Figure 5 : ตารางดอกเบี้ย และอายุ ตราสารหนี้ออกใหม่ ประจำเดือน มิถุนายน 2568

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )