หุ้นกู้
เศรษฐกิจในประเทศ
Macro View in October 2024 (Bond Research).
อ่าน 1 นาที
Key Highlights:
- คาดมูลค่าหุ้นกู้ที่จะเสนอขาย ในเดือน พฤศจิกายน 2567 ทะลุ 1 แสนล้านบาท
- เดือนตุลาคม 2567 หุ้นกู้ออกใหม่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท ลดลง14.22% MoM และลดลง 14.72% YoY สะท้อนภาพการเติบโตของตลาดหุ้นกู้ที่ชะลอตัวลง ภายหลังจากการประกาศลดดอกเบี้ยของ กนง. ในวันที่ 16 ตุลาคม 2567
- หุ้นกู้ออกใหม่เสนอขายเดือนพฤศจิกายน ที่น่าสนใจเป็นหุ้นกู้ Perpetual Bond หรือ หุ้นกู้ชั่วนิรันด์ ซึ่งได้แก่ BGRIM
- หุ้นกู้ขอเลื่อนนัดชำระ 2 บริษัท
- หุ้นกู้ปรับลดอันดับเครดิต 6 บริษัท
Figure 1 : New registered bonds (THB Billion)
( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )
- เมื่อเทียบหุ้นกู้ครบกำหนดในแต่ละปีและหุ้นกู้ที่ออกใหม่ในปีนั้นๆ เราพบว่ามีอัตราส่วนเฉลี่ยย้อนหลัง 9 ปี (ไม่นับสถานการณ์ Covid-19) อยู่ที่ประมาณ 59% ซึ่งในปี 2024 หุ้นกู้ที่ครบกำหนดมีมูลค่า 8.9 แสนล้านบาท ซึ่งหากประมาณการจากอัตราส่วนแล้ว ปี 2024 ควรจะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท โดยใน 10 เดือนแรกของปี 2024 มีมูลค่าการออกรวม 8.1 แสนล้านบาท ดังนั้นในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ เราคาดว่าจะได้เห็นการออกหุ้นกู้ที่มีมูลค่ามากเกินกว่า 1 แสนล้านบาทโดยประมาณ
Figure 2 : Maturity Vs. New Registered Bonds (THB Billion)
( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )
หุ้นกู้ขอเลื่อนชำระ 2 ราย ได้แก่ SNW และ A
- จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ SNW บริษัทสยามนุวัตร จำกัด มีมติเลื่อนชำระหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่
- SNW224A เลื่อนออกไปอีก 10 เดือน 4วัน
- SNW231A เลื่อนออกไปอีก 1 ปี
- SNW233A เลื่อนออกไปอีก 1 ปี
- พร้อมทั้ง เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ จากเดิม ร้อยละ 8.00 ต่อปี เป็น ร้อยละ 8.50 ต่อปี และ ผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งอัตราส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity Ratio) ในอัตราส่วนไม่เกิน 5:1 เท่า ซึ่งคาดว่าจะปรากฏในงบการเงินประจำปี 2567
- จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ A บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)มีมติเลื่อนชำระหุ้นกู้ทั้ง 14 รุ่น
- วาระที่ 1: พิจารณาอนุมัติผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้ง 14 รุ่น ออกไปอีก 2 ปี นับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิมซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นการเริ่มเจรจา หรือเข้าทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างหนี้อันมีลักษณะเป็นการผ่อนผันการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ รวมทั้งการเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาชำระหนี้ โดยมีมูลหนี้รวมกันเป็นจำนวนเกินกว่า 400,000,000 (สี่ร้อยล้าน) บาท ตามข้อ 11.1.10 ของข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิดังกล่าว
- โดยในวาระอื่นๆของทั้ง 14 รุ่นมีทั้งที่อนุมัติและไม่อนุมัติ รวมไปถึงองค์ประชุมไม่ครบทำให้ต้องเลื่อนการปนะชุม ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaibma.or.th/EN/News/Detail.aspx?id=4b269ccf-4a90-ef11-a31e-a4821249f081
Figure 3 : Outstanding Value of Long-term Bond with Maturity by sector
( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )
สรุปหุ้นกู้เสนอขายในเดือนตุลาคม 2567
- ผู้ออกรายใหญ่ในเดือนกันยายน ได้แก่ TBEV ซึ่งมีมูลค่าการออกหุ้นกู้รวม 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 37.62% ของมูลค่าผู้ออกหุ้นกู้รวมในเดือนตุลาคม
- หุ้นกู้กลุ่ม Investment grade จำนวน 12 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ SENA, LH, THANI, TIDLOR, TCAP, PSL, TSE, TBEV, CIMBT, ICBCTL, JMT, MTC
- หุ้นกู้กลุ่ม Non Investment grade จำนวน 9 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ MJD, CWTTH, PD, MICRO, SGF, TAA, CMC, TNL, PF
- (Figure 3) จากตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวที่ขึ้นทะเบียนในเดือนกันยายน เราพบว่าส่วนใหญ่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย ยกเว้น 4 บริษัทจากทั้งหมด 21 บริษัทผู้ออก
การปรับอันดับเครดิตองค์กร (Issuer Rating)
Figure 4 : Company rating changes during 2019-10M24
( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )
การปรับเพิ่มอันดับเครดิต
- ในเดือนนี้ไม่มีหุ้นกู้ปรับเพิ่มอันดับเครดิต
การปรับลดอันดับเครดิต
- CGH คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถูกลดอันดับเครดิตองค์กรของ เป็นระดับ BB+ จาก BBB- และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น Stable จาก Negative จากเหตุผลกำไรในอนาคตมีแนวโน้มลดลง และในด้านของกำไรในปัจจุบันที่อ่อนแอลง มีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายของ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (Pi) ซึ่งเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นอัน เนื่องมาจากการลงทุนจำนวนมากในการพัฒนา Pi Application ซึ่งส่งผลในทางลบต่อกำไรของบริษัท ในส่วนของบริษัท Pi มีการปรับลดอันดับเหลือ BB+ จากระดับ BBB- และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative โดยเป็นไปตามการปรับอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (CGH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่
- CPNREIT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ถูกลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน มาอยู่ที่ระดับ A+ จากระดับ AA- และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของทรัสต์ฯ เป็น Stable จาก Negative จากการที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ราคาและค่าตัดจำหน่าย (Debt to EBITDA Ratio) จะยังคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าระดับ 7.5 เท่าไป อีก 2-3 ปีซึ่งเป็นเกณฑ์ของทริสเรทติ้งสำหรับการปรับลดอันดับเครดิต
- A บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ถูกทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรเป็นระดับ B- จากเดิมที่ระดับ B พร้อมทั้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม Negative สำหรับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทด้วย เป็นมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 รวมถึงความเสี่ยงด้านการเงินที่อาจเสื่อมถอยลงอย่างมากจากการลงทุนในโครงการ “สุนทรียา ราชดำริ” ที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะเผชิญกับความเสี่ยงในการ รีไฟแนนซ์และสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
- TPOLY บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ระดับ BB+ จากระดับ BBB- พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative ทั้งนี้ การลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงธุรกิจก่อสร้างของบริษัทที่ยังคงมีผล กำไรอ่อนแอท่ามกลางภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งส่งผลทำให้ตัวชี้วัดเครดิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท อยู่ในระดับที่ไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตที่ทริสเรทติ้งเคยให้ไว้นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท TPCH ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ระดับ BB+ จากระดับ BBB- ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative ตามการลดอันดับเครดิตของบริษัทแม่ คือ TPOLY
หุ้นกู้เสนอขายใหม่
- สำหรับตราสารหนี้ภาคเอกชนที่จะเสนอขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ ACPG PF SASST SAWAD MQDC KUN SAMART CENTEL TPIPL NER SQ SST RT ADVANC BGRIM
- โดยในส่วนของหุ้นกู้ที่เป็น หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ เสนอขายคือ BGRIM จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 เท่ากับอัตรา 5.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 6-25 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 0.25% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 26-50 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 1.00% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 51 เป็นต้นไปเท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 2.00% ต่อปี
Figure 5 : หุ้นกู้เสนอขายในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2567
( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )
กรอกอีเมล เพื่อรับข้อมูลข่าวสารจากเรา
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
Macro View in December 2024 (Bond Research).
มูลค่าเสนอขายหุ้นกู้เสนอขายในเดือน ธันวาคม 2567 ลดลง 65.7% MoM ที่ 3.95 หมื่นล้านบาท และ ภาพรวมตลาดห…
-
Macro View in November 2024 (Bond Research).
ในเดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นมูลค่าการออกหุ้นกู้พุ่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าค่อนข้างมาก โดยเป็นในฝั่งหุ้นกู…
-
Macro View in September 2024 (Bond Research).
บริษัท ฟินน์คอร์ป แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด หรือ FynnCorp (AA&P เดิม) บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินรุ่นใหม่ น…