ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม

พูดคุยกับเราได้ที่ Line Official Account

< 1

หุ้นกู้

เศรษฐกิจในประเทศ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก รวมไปถึง ประเทศคู่ค้าและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

โดยนอก จากผลกระทบในระดับประเทศนั้นได้ส่งผงผลกระทบลงมาถึง สินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆอีกด้วย

  • ผลกระทบต่อ “พันธบัตร” ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น พันธบัตรอายุ 10ปี ปรับขึ้นจาก 4.0% อยู่ที่ประมาณ 4.4% จากปัจจัยในเรื่องของความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ปลอดภัย0ของสหรัฐลดลง ซึ่งสาเหตุของการที่ความเชื่อมั่นลดลงเกิดจาก สงครามการค้า โดยเฉพาะการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆของสหรัฐ ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น สิ่งที่จะตามคือเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงทำการเทขายพันธบัตรรัฐบาล เพื่อเป็นการ lock อัตราผลตอบแทน แต่เป็นเพียงแค่ระยะสั้น เพราะในระยะยาวนักลงทุนยังคงมีความกังวลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเรื่องภาษี แล้วนั้น แต่ในระยะยาวนักลงทุนยังมองมีมุมมองต่อการลดดอกเบี้ยของ FED มากกว่าการขึ้นดอกเบี้ย
  • ผลกระทบต่อ “ค่าเงิน”
    • ดอลลาร์ (USD) ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนทวีความรุนแรง การประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีน ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก
    • หยวน (CNY) เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลง จากการที่รัฐบาล ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง เพราะมีความต้องการที่จะลดผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ ทำให้สินค้าส่งออกจีนมีราคาถูกลงและแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดโลก
    • บาท (THB) ในส่วนของค่าเงินบาท เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นั้นมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น จากการที่นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ลง
  • ผลกระทบต่อ “ตลาดหุ้น” โดยในตลาดหุ้นทั่วโลก ร่วงลง: นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ อย่างหุ้นในช่วงแรก เป็นสัญญาณของความไม่เข้าใจถึงความขัดแย้ง และ ยังมองไม่เห็นทางออก หรือผลลัพธ์ ส่งผลให้เกิดการเทขายของสินทรัพย์เสี่ยง ในช่วงแรก
  • ผลกระทบต่อ “ทองคำ” ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) เงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้มูลค่าทองคำมากขึ้น จากการที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางที่ใช้ในการซื้อ-ขาย การที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหรือพูดอีกนัยนึง คือมีมูลค่าลดลง ก็จะส่งผลให้มูลค่าของทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น และทำให้กระแสเงินของแต่ละประเทศต่างไหลเข้าสู่ทองคำส่งผลให้ทองคำมีราคาเพิ่มสูงขึ้น

โดยที่ล่าสุด สหรัฐ มีท่าทีที่อ่อนข้อลง โดยไม่ต้องการให้อัตราภาษีสูงขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่ง จะไม่มีการค้าขายเกิดขึ้น ซึ่งสหรัฐเอง ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น และอาจมีการชะลอการเก็บอัตราภาษีลงเพื่อให้เกิดกิจกรรมการค้าขึ้นในบางประเทศ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นเข้ามาเจรจารกับ ทางสหรัฐ