ความรู้ทั่วไป
M&A หรือ การควบรวมกิจการ กลยุทธ์ที่ทั่วโลกให้ความนิยม
อ่าน 1 นาที
M&A ย่อมาจาก “Merger and Acquisition” หรือ การควบรวมกิจการ
โดย Mergers หมายถึง การที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป ทำการควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมา โดยที่บริษัทเดิมทั้ง 2 (หรือมากกว่า) เป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนคำว่า Acquisitions นั้นหมายถึง การเข้าซื้อกิจการ โดยทั่วไปจะเป็นลักษณะการเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ซึ่ง M&A ที่เคยเกิดขึ้น ก็จะมีอย่างเช่น การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต จนกลายมาเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ในปัจจุบัน
โดย M&A จะแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. Backward
การควบรวมกิจการไปยังต้นนำ้ หรือก็คือ การที่บริษัทหนึ่งเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทที่เป็นผู้ผลิต ส่งออกให้กับบริษัทนั้นๆ เช่น MAKRO ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าซื้อกิจการ Indoguna ซึ่งประกอบกิจการตัวแทนจำหน่ายสินค้าบริโภค
2. Forward
การควบรวมกิจการไปยังปลายน้ำ หรือก็คือ การที่บริษัทหนึ่งซึ่งเป็นผู้ผลิต ส่งออกเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทที่ส่งออกไปให้ เช่น BJC ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและกระจายสินค้าเข้าซื้อกิจการ BIGC ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีก
3. Horizontal
การควบรวมกิจการในระดับเดียวกัน หรือการควบรวมกับกิจการที่มีลักษณะการทำธุรกิจเดียวกัน เช่น TRUE ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เข้าควบรวมกิจการกับ DTAC ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เช่นเดียวกัน
4. Diversification
การควบรวมกิจการไปยังธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น PACE ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้าควบรวมกิจการกับ Dean & Deluca ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านขนม
โดยการควบรวมกิจการ แน่นอนว่ามีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การขยายฐานลูกค้า เพราะเมื่อ 2 แบรนด์ควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน ‘ฐานลูกค้า’ ก็จะมีการเพิ่มขยายขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
- สร้างโอกาสทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่หรือรายย่อย เมื่อเห็นธุรกิจไหนที่มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ มีแนวโน้มในการเติบโตที่สูงขึ้น นักลงทุนก็ย่อมมีความสนใจร่วมลงทุนดวย
- กระจายเครือข่ายการตลาด เมื่อเกิดการรวมกิจการเรียบร้อย ช่องทางการขายหรือจุดขายสาขาต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์สามารถทำการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับแบรนด์
- ลดต้นทุนในการผลิต เมื่อเกิดการควบรวมกิจการแบบนี้ แปลว่าทั้ง 2 แบรนด์ก็จะได้แหล่งในการผลิตที่มีคุณภาพ สามารถประหยัดต้นทุนต่อหน่วยการผลิตสินค้าหรือบริการต่าง ๆ
- เพิ่มโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่ๆ การรวมกิจการยิ่งเป็นการทำให้เพิ่มโอกาสของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ด้วยการควบรวมกิจการกันของมันสมองชั้นดีจากบุคลากรมากฝีมือของ 2 ฝั่ง รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สามารถนำมาเอื้อกันให้เกิดประโยชน์
การควบรวมกิจการ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทั่วโลกให้ความนิยมและเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในทางธุรกิจ หลายบริษัทที่ต้องการออกกลยุทธ์เพื่อการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน หรือเพื่อการอยู่รอดของกิจการ ที่ฟินน์คอร์ป เรามีบริการวาณิชธนกิจที่ครอบคลุมในการประเมินมูลค่าธุรกิจ คำแนะนำการซื้อขาย การควบรวมและเข้าถือครองกิจการ เราสามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินหลักในทุกการตัดสินใจสำคัญทางธุรกิจ สามารถเริ่มต้นปรึกษาธุรกิจเพิ่มเติมกับ “ฟินน์คอร์ป กรุ๊ป”
ค้นพบโอกาสทางธุรกิจของคุณกับเราได้ที่นี่
มากกว่าแค่การเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินและการลงทุน
เราพร้อมมอบคำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
กรอกอีเมล เพื่อรับข้อมูลข่าวสารจากเรา
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
Warrant ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
Warrant คือ ตราสารที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหลักทรัพย์ที่ใบสำคัญแสดงสิทธินั้นอ้างอิงอยู่ (Underly…
-
การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer)
การทำ Tender offer หรือ คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ คือการที่บริษัทหนึ่งสนใจเข้าควบรวมกิจการกับอีกบริษัท โด…
-
ทางเลือก “การปรับโครงสร้างหนี้” กลยุทธ์ที่ช่วยผ่าวิกฤต
การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ซึ่งไม…
-
วาณิชธนกิจ กับการมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
วาณิชธนกิจ หรือ Investment Banking หมายถึง สถาบันทางการเงินหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการระดมเงินทุน,…