ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม

พูดคุยกับเราได้ที่ Line Official Account

5

รูปภาพหน้าปกที่สื่อถึง NSL

หุ้นสามัญ

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) [Ticker: NSL]

กลุ่มอุตสาหกรรม: เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

หมวดธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม (FOOD)

% ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 25 เม.ย. 68: 26.92%

ช่วงราคา 52 สัปดาห์ ต่ำ/สูง (บาท): 37.25/ 25.00

กราฟแสดงขนาดตลาดอาหารและอาหารพร้อมทานในไทย ตั้งแต่ปี 2025 ถึงปี 2030

ในปี 2025 ตลาดอาหารในประเทศไทยมีขนาดตลาดอยู่ที่ประมาณ 2,400 พันล้านบาท (อิงอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 32.65 บาท) โดยเป็นตลาดอาหารพร้อมรับประทานประมาณ 82 พันล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การเติบโตของตลาดอาหารพร้อมรับประทานนี้คาดว่าจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 9.56% ระหว่างปี 2025 ถึง 2030 อันมีปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ วิถีชีวิตของคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการรับประทานอาหาร รวมถึงการขยายตัวของช่องทางจำหน่ายทั้งในรูปแบบหน้าร้านและออนไลน์

ดังนั้น ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคของการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่ของมูลค่า ปริมาณ และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

เส้นทางเติบโตของ NSL Foods จากก่อตั้งสู่ธุรกิจรับ OEM สู่แบรนด์ข้าวแท่งและบริษัทย่อยอื่นๆ

ปี 2006
– ก่อตั้งบริษัท NSL Foods Company Limited อย่างเป็นทางการ

– เริ่มผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับ 7-Eleven ตั้งแต่ปี 2549 โดยเริ่มจากการเป็น OEM ผลิตแซนด์วิชอบร้อน

ปี 2013
– ย้ายฐานการผลิตจากนนทบุรีไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี

ปี 2015
– ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม เปิดโรงงานแห่งที่สองในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร

ปี 2019
– เข้าซื้อกิจการ Quality Specialty Co., Ltd. เพื่อรุกตลาด Food Services
– เสริมพอร์ตสินค้าแช่แข็ง อาหารทะเล และเนื้อสัตว์

ปี 2021
– เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

ปี 2022
– เปิดตัวแบรนด์ “Rice Bar” ข้าวแท่งพร้อมรับประทาน

ปี 2023–2024
– ขยายกลุ่มธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ได้แก่:

NSL Intertrade Co., Ltd. → ธุรกิจส่งออก

NSL Bake A Wish Co., Ltd. → เบเกอรี่แบรนด์ “Bake A Wish”

NSL Inno Foods Co., Ltd. → ธุรกิจนวัตกรรมอาหาร เริ่มจากการผลิตชีส

NB Value Link Co., Ltd. → เครื่องหมายการค้า ผลไม้กระป๋อง, น้ำมะพร้าว, กะทิ

ภาพรวมธุรกิจ NSL Foods ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ OEM, สินค้าแบรนด์ตนเอง เช่น ข้าวแท่งและปังไทย, ธุรกิจ Food Service และบริษัทย่อยใหม่ ได้แก่ NSL Intertrade, NSL Inno Foods และ NSL Bake A Wish

ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM)

  • NSL เป็นผู้รับผลิตอาหารให้กับ 7-Eleven ภายใต้แบรนด์ของ CPALL เช่น Ezy Taste, Ezy Sweet, Ezy Bake และ EZYGO โดยเน้นอาหารพร้อมรับประทานทานและขนมเบเกอรี่ อาทิ แซนวิชแช่เย็น, แซนวิชอบร้อน, เบอร์เกอร์, อาหารรองท้อง และขนมหวานต่างๆ ซึ่งครอบคลุมกว่า 60-70 เมนู และมีการพัฒนาสินค้าใหม่ต่อเนื่อง เช่น สินค้าฮาลาลและการทำ Co-brand กับ Kitkat และแบรนด์เนื้อแท้
  • นอกจากกลุ่มสินค้า OEM สำหรับ CPALL แล้ว NSL ยังรับจ้างผลิตสินค้าเบเกอรี่ อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทานให้กับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ซึ่งต้องการสินค้าที่มีมาตรฐานคุณภาพคงที่ รองรับการขยายสาขาในหลายพื้นที่ ตัวอย่างสินค้าที่ผลิตให้ลูกค้ากลุ่มนี้ ได้แก่ แกงกะหรี่ญี่ปุ่น สตูว์เนื้อ โบโลเนสซอส และเมนูพร้อมปรุงอื่น ๆ

รกิจภายใต้แบรนด์ของตนเอง (Own Brand)

  • NSL ได้สร้างแบรนด์ของตนเองเพื่อกระจายความเสี่ยงจาก OEM และเพิ่มมูลค่าแบรนด์ในระยะยาว เช่น – ปังไทย: ขนมอบกรอบสไตล์ไทย เช่น พายแท่ง พายพริก – ข้าวแท่ง (Rice Bar by NSL): ข้าวพร้อมทานแบบแท่งที่ถือกินได้ง่าย เจาะกลุ่มคนทำงานและเด็ก – NSL Bakery: กลุ่มขนมสไตล์ต่างประเทศ เช่น ทองม้วนหลากสี ทาร์ตสไตล์ไต้หวัน พายสตรอเบอร์รี่ – NSL Selection: เค้ก เบเกอรี่ และของหวาน ร่วมพัฒนาสินค้ากับ Bake A Wish เพื่อขายใน 7-Eleven – Natural Bite, Golden Bay, The Amber: สินค้าสุขภาพหรือขนมอบพรีเมียมที่วางขายผ่าน MT/TT

รกิจ Food Service

  • NSL รุกเข้าสู่ตลาด Food Service ตั้งแต่ปี 2019 มุ่งเน้นการจัดหาและแปรรูปวัตถุดิบอาหารสำหรับกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าปลีกโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะการแปรรูปเนื้อสัตว์และอาหารทะเลตามสเปกลูกค้า เช่น การแล่เป็นชิ้น ขนาด และน้ำหนักเฉพาะ พร้อมบรรจุในแพ็คหลากหลายขนาด เพื่อความสะดวกในการนำไปปรุงอาหารต่อ ซึ่งในปี 2025 วางเป้าขยายฐานลูกค้าไปยังแบรนด์ชั้นนำ เช่น เนื้อแท้, Zen Group, Eat Am Are, MK Suki, Sukishi, Salad Factory และอื่นๆ

ธุรกิจใหม่ภายใต้บริษัทย่อย

  • NSL Intertrade : จุดเริ่มต้นการขยายสู่ตลาดส่งออก โดย NSL Foods ถือหุ้นในสัดส่วน 79.99% บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ Own Brand ที่มีศักยภาพสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น การทดลองส่ง “ข้าวแท่งแช่แข็ง” ล็อตแรกไปยังตลาดยุโรปในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ NSL Foods ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับ NSL Intertrade ด้วยการเข้าซื้อเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินที่จำเป็นจากบริษัท N.B. Value Link Co., Ltd. ซึ่งนอกจากจะได้กลุ่มสินค้าน้ำมะพร้าวและผลไม้กระป๋องแล้ว ยังได้ฐานลูกค้าต่างประเทศที่พร้อมนำมาใช้ต่อยอดการส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ของ NSL ไปสู่ตลาดโลกได้ทันที
  • NSL Bake A Wish : บริษัทย่อยที่ NSL Foods ถือหุ้นในสัดส่วน 59.99% โดยดำเนินธุรกิจร้านเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ “Bake A Wish” ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์และสาขาที่บริษัทบริหารเอง จุดเด่นคือการสร้าง Synergy ที่สำคัญกับผลิตภัณฑ์กลุ่มเบเกอรี่ของ NSL Foods โดย Bake A Wish มีบทบาทในการร่วมพัฒนาสินค้าใหม่กับ NSL Foods เพื่อนำไปวางจำหน่ายผ่านช่องทาง 7-Eleven และโมเดิร์นเทรด ภายใต้แบรนด์ NSL Bakery และ NSL Selection ขณะเดียวกัน NSL Foods ยังทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าบางรายการให้กับหน้าร้านของ Bake A Wish ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้กำลังการผลิตในโรงงานของ NSL ให้สูงขึ้น
  • NSL Inno Foods เป็นบริษัทย่อยที่ NSL Foods ถือหุ้น 78.99% มุ่งเน้นด้านนวัตกรรม โดยเริ่มต้นจากการผลิตและจำหน่ายชีส เช่น มอซซาเรลลา เชดดาร์ และชีสสเปรด ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในผลิตภัณฑ์หลักหลายรายการของ NSL การมีโรงงานผลิตชีสของตนเองช่วยให้ NSL สามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจชีสสู่ตลาด B2B และ B2C ในอนาคต

โครงสร้างและการเติบโตของรายได้

โครงสร้างรายได้ตามกลุ่มธุรกิจ (ปี2024)

กราฟวงกลมและตารางแสดงสัดส่วนรายได้ของ NSL Foods ปี 2024 จำแนกตามกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ เบเกอรี่ OEM แบรนด์ตนเอง เช่น ข้าวแท่ง และ Food Services
  • โครงสร้างรายได้ของ NSL Foods ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,865.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 22%
    • รายได้หลักยังคงมาจากกลุ่มเบเกอรี่และอาหารรองท้อง เช่น แซนด์วิชและเบอร์เกอร์ ซึ่งสร้างรายได้ 5,035 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85.8% ของรายได้รวม
    • สินค้าภายใต้แบรนด์ NSL เติบโตอย่างก้าวกระโดด คิดเป็น 7.6% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 156.2% สะท้อนถึงการเริ่มสร้างฐานรายได้ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
    • ธุรกิจ Food Service ที่มุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มร้านอาหารและโรงแรม มีรายได้ 307.4 ล้านบาท คิดเป็น 5.2% เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย
    • รายได้จากค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์และรายได้อื่น ๆ รวมกันแม้จะยังมีสัดส่วนไม่มาก แต่ก็มีอัตราการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน

การเติบโตของรายได้ ( ปี2020 – ปี2024 )

กราฟแท่งแสดงการเติบโตของรายได้ NSL Foods จากปี 2020 ถึง ปี 2024
  • รายได้ของ NSL Foods เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจาก 2,928 ล้านบาทในปี 2020 และเพิ่มขึ้นเป็น 5,866 ล้านบาทในปี 2024 สะท้อนอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่แข็งแกร่งถึง 18.97%

โครงสร้างต้นทุนและการควบคุมต้นทุน

โครงสร้างต้นทุนแบ่งออกตามประเภท

  • ต้นทุนรวมของ NSL Foods ในปี 2567 อยู่ที่ 5,190.4 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก
    • ต้นทุนสินค้าขายเป็นสัดส่วนหลักถึง 89.2% หรือ 4,629.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18.4% ตามการเติบโตของยอดขาย
    • ต้นทุนในการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 387.3 ล้านบาท คิดเป็น 7.5% ของต้นทุนรวม เพิ่มขึ้น 15.7% จากปีที่ผ่านมา
    • ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 164.4 ล้านบาท หรือ 3.2% ของต้นทุนรวม เพิ่มขึ้นถึง 29.1% ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนในโครงสร้างองค์กรและทรัพยากรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
    • ต้นทุนทางการเงินลดลงเล็กน้อยเหลือ 8.8 ล้านบาท หรือลดลง 17% จากปีก่อน
  • ภาพรวมโครงสร้างต้นทุนแสดงให้เห็นว่า NSL ยังคงควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ยอดขายจะเติบโตสูง โดยเฉพาะการรักษาสัดส่วนต้นทุนสินค้าขายให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม ขณะที่ต้นทุนด้านบริหารและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในระดับที่สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ

การควบคุมต้นทุน ( ปี2020 – ปี2024 )

กราฟเส้นแสดงสัดส่วนต้นทุนขาย (COGS) และค่าใช้จ่ายในการบริหารและขาย (SG&A) ต่อยอดขายของ NSL Foods ระหว่างปี 2020 ถึง 2024
  • ตลอดช่วงปี 2020 ถึง 2024 ทางบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนสินค้าขาย (COGS) ต่อ ยอดขายที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 83.63% ในปี 2020 เหลือ 78.93% ในปี 2024
  • สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เฉลี่ยประมาณ 9–10% ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2024 อยู่ที่ 9.41% ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า
  • โดยสรุปแสดงให้เห็นว่า NSL ไม่เพียงขยายรายได้ได้ดี แต่ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทในอนาคต

การเติบโตของกำไรสุทธิและอัตราการทำกำไร

กราฟแสดงการเติบโตของกำไรสุทธิของ NSL Foods ระหว่างปี 2020 ถึงปี 2024 และการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ
  • ในช่วงปี 2020 ถึง 2024 NSL Foods แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 151 ล้านบาทในปี 2020 เป็น 541 ล้านบาทในปี 2024 หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ถึง 37.58% ซึ่งถือว่ามีการเติบโตโดดเด่นมาก
  • อัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 16.2% ในปี 2020 มาอยู่ที่ 20.5% ในปี 2024 ในส่วนอัตรากำไรสุทธิ (%NPM) เพิ่มขึ้นจาก 5.2% เป็น 9.2% ในช่วงเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนในภาพรวมดังที่ได้กล่าวไปในส่วนก่อนหน้า

การเปลี่ยนแปลงของ ROA, ROE และโครงสร้างหนี้สิน

กราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงของ ROA, ROE และหนี้สินของ NSL Foods ตั้งแต่ปี 2020–2024 โดย ROA และ ROE ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) และ Bank Debt/EBITDA ลดลงอย่างชัดเจน
  • พัฒนาการทางการเงินที่แข็งแกร่งทั้งในด้านความสามารถในการทำกำไรและโครงสร้างเงินทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 9.4% ในปี 2020 เป็น 24.4% ในปี 2024 ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) กลับมาอยู่ในระดับสูงถึง 31.4% ในปีล่าสุด หลังจากเคยแตะจุดสูงสุดที่ 32.6% ในปี 2020 ก่อนจะชะลอลงเล็กน้อยจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และปรับโครงสร้างเงินทุน
  • ในด้านความสามารถในการบริหารหนี้สิน NSL ลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อย่างมีนัยสำคัญจาก 2.5 เท่าในปี 2020 เหลือเพียง 0.6 เท่าในปี 2024 และอัตราส่วนหนี้ธนาคารต่อ EBITDA ลดลงจาก 1.9 เท่า เหลือ 0 เท่า แสดงให้เห็นถึงการลดภาระดอกเบี้ยและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การจ่ายเงินปันผล

กราฟแสดงการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสของ NSL Foods ระหว่างปี 2564 ถึงปี 2568
  • การจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นของ NSL ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปี 2024 มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2021 บริษัทจ่ายปันผลที่ 0.25 บาทต่อหุ้น ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 0.50 บาทในปี 2022 และเพิ่มเป็น 0.60 บาทในปี 2023 จนถึงจุดสูงสุดที่ 0.70 บาทต่อหุ้นในปี 2024
  • สำหรับปี 2025 ซึ่งขณะนี้เพิ่งมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.55 บาทต่อหุ้น และยังเหลือรอบปันผลอีกครั้งในช่วงท้ายของปี ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าปันผลรวมทั้งปีจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นที่ผ่านมา สะท้อนถึงฐานะการเงินที่มั่นคงและความสามารถในการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนของ NSL รวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

ความเสี่ยง

  • ความเสี่ยงสำคัญจากการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวเป็นสัดส่วนสูง โดยเฉพาะ CPALL (7-Eleven) ซึ่งในช่วงปี 2565–2567 รายได้จากการขายให้ CPALL คิดเป็นถึง 91%, 91% และ 86% ตามลำดับ แม้ NSL จะมีข้อตกลงความร่วมมือที่ต่อเนื่องถึงปี 2574 และมีความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดี แต่ก็ไม่มีข้อผูกพันในเรื่องสิทธิ์การผลิตหรือความเป็นผู้ผลิตรายเดียวให้ CPALL โดยเด็ดขาด ซึ่งอาจกระทบต่อความต่อเนื่องของรายได้หากมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายหรือคู่ค้า
  • ความเสี่ยงด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน ขนมขบเคี้ยว และ Food Services ซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากและการแข่งขันค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม NSL มีข้อได้เปรียบเชิงแข่งขันในหลายด้าน เช่น ความสัมพันธ์กับช่องทาง Modern Trade รายใหญ่ และขนาดธุรกิจที่เอื้อต่อการเกิดประสิทธิภาพในการผลิต การจัดซื้อ และการขนส่ง

ข้อจำกัดความรับผิด (Disclaimers):

กดด้านล่างเพื่อดูรายละเอียด ข้อจำกัดความรับผิด:

FynnCorp IAS Research Disclaimers | Visible

  • , , ,

    หุ้นกู้ออกใหม่ลดฮวบ! เดือน มิ.ย. 68 เหลือแค่ 4.85 หมื่นล้านบาท ชี้เศรษฐกิจซึม ผู้ออก “แป้ก” ถึง 8 บริษัท พร้อมเจาะลึก 5 หุ้นกู้โดนลดเครดิต! ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ เดือน มิถุนายน 2568 : Bond Research

    ระดมทุนไม่เข้าเป้า มูลค่าตราสารหนี้เสนอขายในเดือน มิถุนายน 2568 ลดลง 42.27% MoM และ 48.60% YoY เหลือ…

  • , ,

    รายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทย ประจำเดือน พฤษภาคม 2568 ปรับตัวลดลง 0.54%

    เงินเฟ้อไทยพลิกติดลบ 2 เดือนติดต่อกัน แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบ ต่อดอกเบี้ย สาเหตุที่เงินเฟ้อไ…

  • , , ,

    ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ เดือน พฤษภาคม 2568 : Bond Research

    มูลค่าตราสารหนี้เสนอขายในเดือน พฤษภาคม 2568 เพิ่มขึ้น 34.22% MoM และลดลง 52.96% YoY ที่ 8.4 หมื่นล้า…

  • , ,

    สรุปภาพรวมเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 1/2025

    รายงานตัวเลข GDP ไทยประจำไตรมาส 1Q2568 ขยายตัวต่อเนื่อง 3.1%YoY ประมาณการ GDP ไทยปี 2568 คาดขยายตัว …