ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม

พูดคุยกับเราได้ที่ Line Official Account

3

หุ้นกู้

เศรษฐกิจในประเทศ

Figure 2 : Maturity Vs. New Registered Bonds (THB Billion)

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

หุ้นกู้ขอเลื่อนชำระ 2 ราย ได้แก่ SNW และ A

  • จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ SNW บริษัทสยามนุวัตร จำกัด มีมติเลื่อนชำระหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่
    • SNW224A เลื่อนออกไปอีก 10 เดือน 4วัน
    • SNW231A เลื่อนออกไปอีก 1 ปี
    • SNW233A เลื่อนออกไปอีก 1 ปี
  • พร้อมทั้ง เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ จากเดิม ร้อยละ 8.00 ต่อปี เป็น ร้อยละ 8.50 ต่อปี และ ผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งอัตราส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity Ratio) ในอัตราส่วนไม่เกิน 5:1 เท่า ซึ่งคาดว่าจะปรากฏในงบการเงินประจำปี 2567
  • จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ A บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)มีมติเลื่อนชำระหุ้นกู้ทั้ง 14 รุ่น
  • วาระที่ 1: พิจารณาอนุมัติผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้ง 14 รุ่น ออกไปอีก 2 ปี นับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิมซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นการเริ่มเจรจา หรือเข้าทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างหนี้อันมีลักษณะเป็นการผ่อนผันการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ รวมทั้งการเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาชำระหนี้ โดยมีมูลหนี้รวมกันเป็นจำนวนเกินกว่า 400,000,000 (สี่ร้อยล้าน) บาท ตามข้อ 11.1.10 ของข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิดังกล่าว
  • โดยในวาระอื่นๆของทั้ง 14 รุ่นมีทั้งที่อนุมัติและไม่อนุมัติ รวมไปถึงองค์ประชุมไม่ครบทำให้ต้องเลื่อนการปนะชุม ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaibma.or.th/EN/News/Detail.aspx?id=4b269ccf-4a90-ef11-a31e-a4821249f081

Figure 3 : Outstanding Value of Long-term Bond with Maturity by sector

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

สรุปหุ้นกู้เสนอขายในเดือนตุลาคม 2567

  • ผู้ออกรายใหญ่ในเดือนกันยายน ได้แก่ TBEV ซึ่งมีมูลค่าการออกหุ้นกู้รวม 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 37.62% ของมูลค่าผู้ออกหุ้นกู้รวมในเดือนตุลาคม
  • หุ้นกู้กลุ่ม Investment grade จำนวน 12 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ SENA, LH, THANI, TIDLOR, TCAP, PSL, TSE, TBEV, CIMBT, ICBCTL, JMT, MTC
  • หุ้นกู้กลุ่ม Non Investment grade จำนวน 9 บริษัท (Issue rating) ได้แก่ MJD, CWTTH, PD, MICRO, SGF, TAA, CMC, TNL, PF
  • (Figure 3) จากตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวที่ขึ้นทะเบียนในเดือนกันยายน เราพบว่าส่วนใหญ่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย ยกเว้น 4 บริษัทจากทั้งหมด 21 บริษัทผู้ออก

การปรับอันดับเครดิตองค์กร (Issuer Rating)

Figure 4 : Company rating changes during 2019-10M24

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )

การปรับเพิ่มอันดับเครดิต

  • ในเดือนนี้ไม่มีหุ้นกู้ปรับเพิ่มอันดับเครดิต

การปรับลดอันดับเครดิต

  • CGH คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถูกลดอันดับเครดิตองค์กรของ เป็นระดับ BB+ จาก BBB- และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น Stable จาก Negative จากเหตุผลกำไรในอนาคตมีแนวโน้มลดลง และในด้านของกำไรในปัจจุบันที่อ่อนแอลง มีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายของ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (Pi) ซึ่งเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นอัน เนื่องมาจากการลงทุนจำนวนมากในการพัฒนา Pi Application ซึ่งส่งผลในทางลบต่อกำไรของบริษัท ในส่วนของบริษัท Pi มีการปรับลดอันดับเหลือ BB+ จากระดับ BBB- และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative โดยเป็นไปตามการปรับอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (CGH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่
  • CPNREIT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ถูกลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน มาอยู่ที่ระดับ A+ จากระดับ AA- และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของทรัสต์ฯ เป็น Stable จาก Negative จากการที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ราคาและค่าตัดจำหน่าย (Debt to EBITDA Ratio) จะยังคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าระดับ 7.5 เท่าไป อีก 2-3 ปีซึ่งเป็นเกณฑ์ของทริสเรทติ้งสำหรับการปรับลดอันดับเครดิต
  • A บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ถูกทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรเป็นระดับ B- จากเดิมที่ระดับ B พร้อมทั้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม Negative สำหรับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทด้วย เป็นมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 รวมถึงความเสี่ยงด้านการเงินที่อาจเสื่อมถอยลงอย่างมากจากการลงทุนในโครงการ “สุนทรียา ราชดำริ” ที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะเผชิญกับความเสี่ยงในการ รีไฟแนนซ์และสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
  • TPOLY บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ระดับ BB+ จากระดับ BBB- พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative ทั้งนี้ การลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงธุรกิจก่อสร้างของบริษัทที่ยังคงมีผล กำไรอ่อนแอท่ามกลางภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งส่งผลทำให้ตัวชี้วัดเครดิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท อยู่ในระดับที่ไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตที่ทริสเรทติ้งเคยให้ไว้นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท TPCH ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ระดับ BB+ จากระดับ BBB- ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable จาก Negative ตามการลดอันดับเครดิตของบริษัทแม่ คือ TPOLY

หุ้นกู้เสนอขายใหม่

  • สำหรับตราสารหนี้ภาคเอกชนที่จะเสนอขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ ACPG PF SASST SAWAD MQDC KUN SAMART CENTEL TPIPL NER SQ SST RT ADVANC BGRIM
  • โดยในส่วนของหุ้นกู้ที่เป็น หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ เสนอขายคือ BGRIM จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 เท่ากับอัตรา 5.75% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 6-25 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 0.25% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 26-50 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 1.00% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 51 เป็นต้นไปเท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 2.00% ต่อปี

Figure 5 : หุ้นกู้เสนอขายในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2567

( Source : FynnCorp IAS’s compilation from SEC and ThaiBMA )